วันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ต้นบอนสี

ต้นบอนสี


         สมัยโบราณบอนสีเป็นไม้มงคลที่นิยมปลูกติดไว้ในบ้านพักอาศัยและจะทำให้บ้านที่ปลูกมีความสุขความเจริญเป็นสิริมงคลแก่บ้านพักอาศัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ทรงเสด็จนิวัตพระนครหลังเสด็จประภาสยุโรป ราวปี พ.ศ. 2444 ทรงนำพันธุ์ไม้หลายชนิดจากยุโรปเข้ามาปลูกในประเทศไทย ในจำนวนพันธุ์ไม้เหล่านี้มีบอนฝรั่งหรือบอนสีรวมอยู่ด้วย

การปลูกและการดูแลรักษา การปลูกบอนนั้นมีหลายแบบด้วยกัน แล้วแต่ความนิยมและวัตถุประสงค์ของผู้ปลูก ซึ่งแบ่งออกได้ดังนี้คือ
         1. การปลูกบอนในแปลง ทางตอนใต้ของสหรัฐอเมริกา มักจะปลูกให้หัวอยู่ลึก 3-4 นิ้ว แต่ถ้าต้นมีความอุดมสมบูรณ์สูง จะปลูกลึกกว่านี้ ทางตอนเหนือของสหรัฐอเมริกาต้องปลูกในเรือนเพาะชำก่อนประมาณ 8 อาทิตย์ คือ จนกว่าอุณหภูมิภายนอกจะอบอุ่น จึงจะนำออกปลูกโดยเริ่มปลูกในเดือนมีนาคมและทยอยปลูกเรื่อยไป
        การดูแลรักษาแปลงปลูก ในการเตรียมแปลง ต้องมีการเตรียมต้นอย่างดี ใช้ปุ๋ยสูตร 8-8-8 ในอัตรา 500-800 กก.ต่อไร่ ในระหว่างฤดูปลูก ต้องใส่ปุ๋ยสูตร 8-8-8 หรือ 3-10-12 อีก 2-3 ครั้ง ครั้งละ 500 กก.ต่อไร่ โดยปกติ การใช้ ปุ๋ยครั้งที่ 2 และ 3 จะลดประมาณไนโตรเจนลง และเพิ่มโปแตสเซี่ยมขึ้น การเพิ่มโปแตสเซี่ยม จะทำให้หัวบอนแข็งแก่เร็ว และเก็บไว้ได้นาน
         การกำจัดวัชพืชเป็นเรื่องสำคัญมาก ทั่วๆ ไปใช้วิธีถอนทิ้งมีบางรายใช้ยากำจัดวัชพืช ซึ่งจะต้องระมัดระวังมาก
         สำหรับในประเทศไทย การปลูกในแปลง ต้องเป็นแปลงที่อยู่ในเรือนเพาะชำ เพราะแดดจัดจนเกินไป จะทำอันตรายบอนได้ หรืออาจทำเฉพาะหลังคาไม้ระเเนง หรืออาจใช้ทางมะ­พร้าวช่วยบังแสงแดดให้บอนก็ได้
         เครื่องปลูกอาจประกอบด้วย ดินเผา ใบมะพร้าว ปุ๋ยคอก ในอัตรา 1:1:1 ผสมกันให้เข้ากันดี แล้วใส่ในแปลงที่จะปลูกบอนในเรือนเพาะชำ ในกรณที่ใช้อิฐบล๊อคกั้น จากการทดลองของแผนกพืชกรรม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พบว่า ถ้าต้องการปลูกบอนให้ได้ในจำนวนมาก และมีอายุยืนนาน ควรปลูกด้วยเครื่องปลูกที่มีส่วนผสมของใยมะพร้าว เช่น ทรายในอัตราส่วน 1:1:1 ถ้าต้องการใน ขนาดใหญ่ ควรปลูกด้วยส่วนผสมของทรายหยาบ ใบไม้ผุ ปุ๋ยคอก ในอัตรา 1 : 1 : 1 ถ้า ต้องการใบใหญ่พอสมควรมีจำนวนใบมาก และมีหัวขนาดใหญ่ ควรปลูกด้วยส่วนผสมของดินเผา ใยมะพร้าว ปุ๋ยคอก ในอัตราส่วน 1:1:1
          การดูแลรักษา ต้องให้ความชื้นสูงเพียงพอแก่ความต้องการของบอน การให้น้ำไม่นิยมใช้แบบรดเหนือต้น เพราะจะทำให้ใบซึ่งบอบบางเป็นอันตรายเสียหายได้ นิยมการให้น้ำทางโคนต้น อาจใช้สายยาง หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่สะดวก ข้อสำคัญคือ พยายามให้นํ้าถูกใบน้อยที่สุด โดยใช้วิธีระบบให้น้ำแบบปล่อยให้ท่วมดิน หรือให้น้ำจากใต้ดินขึ้นมา

          2. การปลูกบอนเป็นไม้กระถาง การปลูกบอนเป็นไม้กระถางนี้ในประเทศไทยทำกันเป็นการค้าอย่างกว้างขวาง จากการสอบถามพบว่า การปลูกบอนกระถาง จะใช้ดินดำผิวหน้านานำมาตากให้แห้งหรืออาจย่างไฟก็ได้ ผสมกับใบมะขามที่เน่าเปื่อยผุพังแล้ว ในอัตรา 2:3 สำหรับกระถางเล็ก 3-4 นิ้ว ถ้ากระถางใหญ่ 5-6 นิ้ว ใช้ในอัตราส่วน 1 : 3 หรืออาจใช้ใบทองหลางแทนใบมะขามก็ได้ ใบมะขามทำให้สีสวย ใบทองหลางทำให้ใบแข็ง คงรูป ก้านแข็งตรง แต่การเจริญเติบโตช้ากว่าการใช้ใบมะขาม ใบก้ามปูก็ใช้ได้ แต่มักทำให้หัวเน่าง่าย อาจเป็นเพราะมีธาตุอาหารสูงเกินไปก็ได้ เวลาปลูกควรฝังให้ลงในเครื่องปลูก 1 นิ้ว
           การดูแลรักษา ต้องให้ความชื้นอย่างเพียงพอแก่ความต้องการของบอน อาจใช้การรดน้ำที่โคนต้น หรือใส่ภาชนะหล่อน้ำก็ได้ ให้มีอุณหภูมิประมาณ 20-30° ซ. ถ้าเป็นฤดูร้อนต้องระวังเรื่องแสงแดดให้มาก ถ้าปกติก็ให้แสงแดดรำไร หรือถ้าจะปลูกในกลางแจ้งก็ได้เหมือนกัน แต่จะต้องให้ถูกแสงแดดตั้งแต่เริ่มชำหัว หรือเพาะเมล็ดเลยทีเดียว เพื่อให้บอนเคยชินกับแสงแดดและมีความสามารถต้านทานได้
          การให้ปุ๋ย ใช้ปุ๋ยน้ำสูตร 8-8-8 อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง
          การปลูกบอนตู้ การทำบอนตู้มีวัตถุประสงค์ เพื่อต้องการเลี้ยงบอนให้ได้ใบที่มีสีสันสวยสดเป็นเงามัน ดังนั้นจึงต้องมีการอบผิวบอน ซึ่งทำได้ง่าย ๆ คือ ทำกระบะซีเมนต์กว้าง ยาว ตามที่ต้องการวางบนพื้น หรือยกพื้น ตามแต่จะสะดวก แล้วนำกระถางซึ่งใส่ดินปลูกเหมือนบอนกระถางทั่วไป คือ ดินเหนียวคลุกกับใบ มะขามเผาพอแห้ง อาจผสมขี้วัวเล็กน้อยก็ได้ แล้วนำหัวบอนที่เพาะจนงอกปลีแล้ว ปลูกลงในกระถางนี้ นำกระถางนี้วางลงบนกระบะซีเมนต์ข้างต้น เรียงให้เป็นระเบียบจนเต็มกระบะเติมน้ำลงในกระบะให้สูง 1-1.5 นิ้ว จากก้นกระถาง และหมั่นเติมให้อยู่ในระดับนี้อยู่เสมอ ส่วนตู้จะใช้ตู้กระจก หรือตู้พลาสติคคลุมก็ได้ เพื่อให้แสงสว่างผ่านได้ แต่ความชื้นจะไม่สูญหาย จะสมํ่าเสมอตลอดเวลา และช่วยให้อากาศ และอุณหภูมิภายในสูงตามที่บอนต้องการแต่จะต้องเปิดให้อากาศผ่านเข้าออกได้บ้างเป็นบางครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูร้อนต้องระวังให้ มาก เพราะอาจทำให้บอนมีอาการตายนึ่งได้ง่าย ข้อดีของการเลี้ยงบอนตู้ก็คือ ถ้าไม่เลี้ยงแบบนี้ ในฤดูร้อนจะเกิดอาการใบร่วง และการเลี้ยงบอนตู้ทำให้มีใบมาก นอกจากนี้ยังเป็นผลดีทางการค้า ที่ผู้ซื้อบอนไปจะไม่สามารถนำไปขยายพันธุ์ได้ทันที เพราะว่าการปลูกแบบนี้บอนจะไม่สร้างหัว หรือสร้างหัวก็มีขนาดเล็กมาก ถ้าจะขยายพันธุ์ก็จำเป็นต้องเลี้ยงต่อไปจนกระทั่งบอนสร้างหัวได้ขนาดเสียก่อน
          การย้ายปลูก เช่นการย้ายจากกระถางมาปลูกลงในแปลง หรือย้ายลงกระถางใหม่ ก่อนย้ายควรลดบอนด้วยสารละลายที่มีส่วนผสมระหว่าง น้ำตาล และ dextrose base เช่น Alad­din จะทำให้ลำต้นและใบของบอนแข็งแรง เหมาะแก่การย้ายปลูก และเมื่อปลูกแล้ว ในบอนแสดงอาการห้อยย้อยลง อาจแก้ไขได้โดยการหุ้มต้นบอนด้วยกระดาษที่ชุ่มชื้นเป็นเวลา 1 คืน วันรุ่งขึ้นต้นบอนจะสดชื้น และใบจะตั้งตรงเหมือนเดิม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ต้นใบเงิน

ต้นใบเงิน คนไทยโบราณเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นใบเงินไว้ประจำบ้านจะทำให้มีเงินมีทองเพราะเป็นไม้มงคลนามนอกจากนี้คนไทยโบราณได้นำ ใบเงินใบทองม...