วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2561

ต้นเดหลี

ต้นเดหลี


           เดหลี เป็นไม้ประดับที่เป็นที่ยอมรับว่า มีความโดดเด่น สวยงาม  เนื่องจากให้ดอกสีขาวที่สวยงาม จึงนิยมนำมาปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับภายในบ้าน หรืออาคาร เป็นไม้ประดับที่มีอัตราการคายความชื้นสูง มีใบสีเขียวเข้มมันเป็นวาว ดอกเป็นช่อสีขาวหรือขาวแกมเหลือง กาบหุ้มช่อดอกมีสีขาวคล้ายดอกหน้าวัว เป็นไม้พุ่มเตี้ยสูงประมาณ 30–60 เซนติเมตร โดยธรรมชาติแล้วไม้ประดับชนิดนี้ชอบขึ้นอยู่ตามริมลำธารที่มีร่มเงาในป่าฝนเขตร้อน แต่เมื่อนำมาปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับภายในอาคาร เดหลีก็สามารถปรับตัวได้ดี และเป็นไม้ดอกไม้ประดับในจำนวนน้อยชนิดที่สามารถออกดอกได้ภายในอาคาร ถึงแม้จะมีความชื้นต่ำ และได้รับแสงจากหลอดไฟฟ้าเท่านั้น ขอเพียงแต่ดินที่ปลูกต้องมีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ
        เดหลี (Peace lily) จัดเป็นไม้ประดับที่นิยมปลูกเพื่อการประดับต้น ประดับใบ และประดับดอก เนื่องจากใบมีขนาดใหญ่ สีเขียวเข้ม ทำให้แลดูสดชื่น และมีดอกที่มีใบประดับดอกสีขาวนวลขนาดใหญ่สวยงาม ทั้งนี้ มีความเชื่อว่า เดหลี เป็นไม้มงคลที่ช่วยส่งเสริมให้ผู้ปลูกมีอายุมั่นขวัญยืน และนำโชคลาภมาให้

• สกุล : Spathiphyllum
• ชื่อวิทยาศาสตร์ : ตามชนิดต่างๆที่นิยมปลูก
       – Spathiphyllum cannifolium (Dryand.) Schott.
       – Spathiphyllum wallisei
• ชื่อสามัญ : Peace lily
• ชื่อท้องถิ่น :
        – เดหลี
        – เดหลีใบกล้วย
        – เจ็ดทิวา
        – หน้าวัวไทย
        – กวักมงคล
        – กวักมงคลใบโพธิ์
• ถิ่นกำเนิด : ประเทศในแถบทวีปอเมริกาใต้ อาทิ โคลัมบีย และเวเนซูเอล่า มีมากกว่า 40 ชนิด
ลำต้น
        เดหลี เป็นไม้ล้มลุกที่มีอายุนานหลายปี มีลำต้นแยกออกเป็น 2 ส่วน คือ ลำต้นส่วนใต้ดินที่เป็นหัว และไหล และลำต้นเหนือดินแตกหน่อจากไหลขึ้นมา โดยลำต้นเหนือดินแตกหน่อออกด้านข้างทำให้เป็นกอจนแลดูเป็นทรงพุ่มขนาดเล็ก ลำต้นสูงประมาณ 40 – 70 เซนติเมตร ทั้งนี้ ทุกส่วนทั้งลำต้น ใบ และดอก เมื่อกรีดจะมีน้ำยางใส
         ใบเดหลี เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับกันจากลำต้น ก้านมีสีเขียวเข้ม ยาว 30-40 เซนติเมตร ใบมีรูปรี แผ่นใบเรียบ และเป็นมัน มีสีเขียวเข้ม โคนใบสอบแคบ ปลายใบเรียวแหลม และโค้งลงดิน ขอบใบเป็นคลื่นเล็กน้อย ขนาดใบกว้าง 15-25 เซนติเมตรยาว 25-50 เซนติเมตร มีเส้นกลางใบเป็นร่องสีเขียวเข้มชัดเจน
         ดอกเดหลี ออกดอกเป็นช่อ แทงออกจากยอดของลำต้น ยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตร ปลายก้านดอกประกอบด้วยใบประดับสีขาวนวล 1 ใบ มีลักษณะเป็นรูปหัวใจสวยงาม โคนใบกว้างเว้าตรงกลาง ปลายใบแหลม กว้างประมาณ 8-12 เซนติเมตร ยาว 15-20 เซนติเมตร ถัดมาเป็นช่อดอกที่มีลักษณะเป็นแท่งทรงกระบอก ซึ่งประกอบด้วยดอกย่อยที่ไม่มีก้านดอก ขนาดเล็กจำนวนมาก คล้ายกับไข่แมงดานา โดยดอกย่อยแต่ละดอกมีสีเหลืองอ่อน ซึ่งเมื่อบานจะส่งกลิ่นหอมอ่อนๆนาน 8-10 วัน ซึ่งจะส่งกลิ่นหอมแรงในช่วงเช้า ทั้งนี้ เดหลีจะออกดอกได้ตลอดทั้งปี และออกดอกมากในฤดูฝนตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กันยายน
• วงศ์ : Araceae

ประโยชน์เดหลี
1. เดหลีนิยมปลูกเป็นไม้ประดับต้น และประดับดอก เนื่องจาก ลำต้น และใบมีสีเขียวเข้ม ใบมีขนาดใหญ่ ส่วนดอกจะมีสีขาว สามารถให้ดอกได้ตลอดทั้งปี
2. เดหลี นอกจากจะปลูกประดับแล้ว ยังจัดเป็นไม้มงคลที่เชื่อว่าจะทำให้ผู้ปลูกมีอายุมั่นขวัญยืน ช่วยปัดเป่าภัย และนำโชคลาภมาให้
3. เนื่องจากต้นเดหลีมีใบขนาดใหญ่ สีเขียวเข้ม จึงเชื่อว่าเป็นไม้ที่ช่วยดูดซับสารพิษได้ดี จึงนิยมปลูกในกระถางสำหรับตั้งไว้ในอาคาร ในห้องรับแขกหรือในห้องทำงาน เพื่อช่วยดูดซับสารมลพิษ
4. ดอกเดหลีเมื่อออกดอกจะมีกลิ่นหอม จึงนิยมนำต้นเดหลีที่ออกดอกแล้วมาวางไว้ในบ้านหรือห้องรับแขกสำหรับปรับกลิ่นอากาศ ซึ่งสามารถให้กลิ่นหอมได้นาน 8-10 วัน ในการออกดอกแต่ละครั้ง และส่งกลิ่นหอมมากในช่วงเช้า เวลา 07.00-10.00 น.
5. ดอกเดหลีมีกลิ่นหอมที่เป็นสารล่อแมลงวันผลไม้ได้ ดังนั้น บางบ้านมักใช้เดหลีล่อแมลงวันผลไม้มารวมกันเพื่อกำจัด นอกจากนั้น อาจนำเดหลีไปปลูกในสวนผลไม้เพื่อเป็นแหล่งล่อแมลงวันผลไม้ให้ออกห่างจากผลไม้ โดยเฉพาะในช่วงการเก็บผลผลิต ทั้งนี้ ดอกเดหลี 3-4 ดอก จะมีความสามารถล่อแมลงวันผลไม้เทียบเท่ากับสารเมธิลยูจินอล 0.5 ซีซี (ที่มา : 1)

การปลูกเดหลี
      เดหลี เป็นไม้ดอกที่ชอบดินร่วน และมีความชื้นสูง ชอบแสงแดดรำไร อุณหภูมิประมาณ 18-25 องศา ซึ่งสามารถปลูกได้ทั้งในกระถาง และปลูกในแปลงใต้ต้นไม้ใหญ่
      เดหลีนิยมปลูกด้วยการแยกหน่อหรือต้นอ่อนเป็นหลัก เนื่องจากดอกติดเมล็ดได้น้อยมาก ส่วนการปักชำไม่นิยมเช่นกัน เพราะจะต้องตัดต้นมาปักชำเท่านั้น เนื่องจากลำต้นไม่แตกกิ่ง แต่จะใช้ในกรณีที่ต้องถอนต้นหรือตัดต้นทิ้งจากแปลง เพื่อให้ต้นเกิดราก และเติบโตใหม่ ทั้งนี้ เดหลีนิยมปลูกทั้งในกระถางสำหรับตั้งไว้ในอาคาร และปลูกในแปลงจัดสวนบริเวณที่มีร่มไม้ใหญ่หรือมีแสงส่องรำไร
การเตรียมดิน
        เดหลี เป็นไม้ที่ชอบดินร่วนซุย ดังนั้น ดินหรือวัสดุที่ใช้ปลูกควรเป็นดินร่วนหรือนำดินร่วนมาผสมกับปุ๋ยคอกหรือวัสดุอินทรีย์อื่นๆ เช่น แกลบดำ ขุ๋ยมะพร้าวเป็นต้น
การแยกหน่อ
        เดหลีที่ปลูกนานกว่า 1 ปี จะเริ่มแตกหน่อได้อย่างรวดเร็ว และสำหรับหน่อเดหลีที่ใช้แยกปลูก ควรมีความสูงประมาณ 15-20 เซนติเมตร นอกจาก การแยกหน่อแล้ว ยังสามารถแยกเหง้าหรือต้นออกปลูกได้ด้วย ทั้งนี้ การขุดหน่อหรือแยกต้นออกปลูกให้ขุดเปิดหน้าดินจนเห็นหน่อหรือรอยต่อของต้นก่อน หลังจากนั้น ให้ใช้มีดหรือเสียมเล็กแทงตัดหน่อหรือลำต้นออก และจะต้องให้มีรากติดหน่อหรือลำต้นมาด้วยทุกครั้ง
วิธีปักชำ
       วิธีนี้เพาะนี้ ไม่เป็นที่นิยม และไม่ค่อยได้ผลนัก เพราะลำต้นมักเน่าหรือแห้งตายก่อน ซึ่งมักใช้ในกรณีที่ต้องตัดต้นทิ้งจากแหล่งปลูก และบริเวณเหง้าเสียหายจนต้องตัดทิ้ง ทำได้ด้วยการตัดโคนลำต้น แล้วนำปักชำลงแปลงหรือในกระถาง ก่อนจะรดน้ำจนกว่าต้นจะติดหรือรากแทงออก
การดูแล
       – รดน้ำ ควรให้น้ำเป็นประจำทุกวัน อย่างน้อย 2 วันต่อครั้ง ในปริมาณที่เพียงหน้าดินชุ่ม
       – ใส่ปุ๋ย ควรเน้นที่ปุ๋ยคอกเป็นหลัก ให้ 2-3 เดือน/ครั้ง แต่ละครั้งให้ 1-2 กำมือ หรืออาจให้ร่วมกับปุ๋ยสูตร 15-15-15 ด้วยการละลายน้ำ 1 หยิบมือ ในทุกๆปีละ 2 ครั้ง

การวางกระถาง
        เดหลีเป็นไม้ที่ชอบแสงรำไร และมีอากาศไม่ร้อนมาก จึงต้องวางกระถางในที่ร่มหรือในอาคารที่แสงแดดส่องถึงน้อย แต่หากปลูกหรือวางในแปลง ควรปลูกหรือวางกระถางไว้ใต้ร่มไม้ใหญ่ ทั้งนี้ ควรหลีกเลี่ยงการวางกระถางหรือปลูกลงแปลงที่มีแสงแดดส่องทั้งวัน เพราะจะทำให้ใบมีสีซีดลง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ต้นใบเงิน

ต้นใบเงิน คนไทยโบราณเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นใบเงินไว้ประจำบ้านจะทำให้มีเงินมีทองเพราะเป็นไม้มงคลนามนอกจากนี้คนไทยโบราณได้นำ ใบเงินใบทองม...